EP 20 - เรื่องราวของ Travis Kalanick กับการก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพปฏิวัติอุตสาหกรรมขนส่ง นามว่า Uber
Manage episode 311457745 series 3125340
แม้ว่า Travis Kalanick จะลาออกจากการเป็น CEO ของ Uber ไปแล้วในปี 2017 จากปัญหาต่าง ๆ นานาที่ Uber ต้องเผชิญและยังแก้ไม่ขาด แต่ความน่าสนใจของธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าสูงที่สุดตัวหนึ่งของโลกอย่าง Uber เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าธุรกิจสตาร์ทอัพควรเริ่มต้นจากปัญหา ปัญหาที่หนัก ใหญ่ และยาวนี่แหละ คือ โอกาสทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ในโลกของสตาร์ทอัพ
START IT UP Podcast - EP 20 ว่าด้วยเรื่องราวของ Travis Kalanick ชายผู้ก่อตั้ง Uber ประวัติของผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา เขาฉายแววความเป็นผู้ประกอบการตั้งแต่วัยเด็ก ด้วยการเร่ขายชุดมีดทำครัวตามบ้านในละแวะที่เขาอยู่ และในวัย 18 ปี เขาเปิดธุรกิจติวสอบ SAT ที่ชื่อว่า New Way Academy ขึ้น
ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย Travis ยอมลาออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน และชวนเพื่อนมาเปิดธุรกิจ Search Engine แบบ P2P นามว่า Scour ก่อนที่จะถูกบอกบริษัทสื่อ 33 แห่งฟ้องร้องเป็นเงินกว่า 250,000 ล้านเหรียญ จนเขาต้องยื่นล้มละลาย จากนั้นเพื่อแก้แค้นบริษัทสื่อเขากับพรรคพวกได้เปิดบริษัทแชร์ไฟล์อีกบริษัทที่ชื่อว่า Red Swoosh และไม่นานก็ถูกซื้อไปโดย Akamai Technologies
หลังจากที่ขาย Red Swoosh ไป Travis มองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ทันที เขาได้พบกับ Garrett Camp ซึ่งเป็น CEO ของ StumbleUpon ที่งาน LeWeb ในกรุงปารีส เหตุการณ์การถูกรถ Taxi ปฏิเสธนี่เอง ที่ทั้งคู่นำปัญหานี้มาขบคิดจนได้ไอเดียการเรียกรถลีมูซีน ให้ไปรับไปส่งง่าย ๆ จากการกดปุ่มเดียวบนแอพมือถือ
Garrett Camp กลับมาสานต่อไอเดียที่ซานฟรานซิสโก เขาทำ Prototype ก่อนที่จะชวน Travis ให้มาเป็นที่ปรึกษาในปี 2009 และเดือนมกราคม 2010 พวกเขาทดสอบไอเดีย Uber ในนิวยอร์คด้วยรถเพียงแค่ 3 คน
Uber เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองนิวยอร์ค เดือนกรกฎาคม 2010 และนั่นทำให้บริการที่เรียบง่ายอย่างการกดปุ่มเดียว แล้วมีรถมารับฮิตระเบิดไปทั่วทั้งเมือง พวกเขาได้รับเงินลงทุนอย่างรวดเร็วในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน พวกเขาขยายบริการ Uber ไปยังเมืองต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว และต้องเจอปัญหาทั้งทางด้านกฎหมาย และผู้ประกอบการรถ Taxi ในท้องถิ่น
ด้วยความที่ Travis ไม่ยอมแพ้ เขากัดฟันสู้ยิบตากับปัญหาเหล่านั้น จน Uber สามารถขยายไปหลายเมืองทั่วโลกได้สำเร็จ นอกจากนี้พวกเขายังมองไปไกลกว่าในปัจจุบัน ด้วยการปรับตัวจากธุรกิจเรียกรถ Taxi ไปสู่บริการทางด้าน Logistic ซึ่งมีบริการรับส่งของที่เกิดขึ้นจาก Uber มากมาย รวมไปถึงการลงทุนวิจัยรถยนต์ไร้คนขับ เพื่อช่วยให้ต้นทุนค่าบริการในอนาคตของ Uber นั้นถูกลง
ปัจจุบันมีหลายประเทศที่ Uber ได้ถอนตัวออกไป เช่น จีน รวมถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างไทย เพราะไม่คุ้มกับการผลาญเงินเพื่อแข่งกับเจ้าตลาดในภูมิภาคนั้น ๆ อย่าง Didi และ Grab ธุรกิจต้องกลับมาโฟกัสที่การสร้างรายได้ เพื่อให้ได้ผลกำไร เพราะธุรกิจในทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยเงินลงทุนจากนักลงทุน ซึ่งอันตรายมาก ๆ อย่างไรก็ตาม Uber วางแผนที่จะเข้า IPO ปี 2019 ด้วยมูลค่าที่ถูกคาดการณ์ไว้สูงถึง 120 Billion Dollar
22 επεισόδια